เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 31 ม.ค.
ทางด้าน นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับผิดชอบดูแลด้านความมั่นคงภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า จากการสอบถามทราบว่าทั้ง 13 คน ไม่ได้รู้จักกันทั้งหมด หนึ่งในนี้มีนักศึกษาที่เรียนอยู่ที่ฉงชิ่งด้วย ซึ่งนักศึกษาไทยที่นั่นมีอยู่ประมาณ 300 กว่าคน ก็ทยอยกันเดินทางกลับ และพอดีกับเป็นช่วงปิดเทอม โดยทั้ง 13 คน และทุกคนในเที่ยวบินนี้ผ่านเครื่องเทอร์โมสแกนแล้ว ไม่มีใครผิดปกติ แต่ก็มีการให้การ์ดคำแนะนำ และเรคคอร์ดไว้ โดยให้แต่ละคนเฝ้าสังเกตอาการ ถ้ามีอาการให้ติดต่อกลับมา...
ส่วนเรื่องคนขับแท็กซี่ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้น ก็มีเรียกมาประชุมผู้ประกอบการในเรื่องคนขับรถต้องป้องกันตัวอย่างไร คนขับทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ รวมถึงการทำความสะอาดรถให้ถี่ขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จากการพูดคุยกับคนขับแท็กซี่จะมีการเช็ดทำความสะอาดเบาะ สิ่งต่างๆ ในรถ และมือจับเปิด-ปิดประตูด้วย โดยได้มีการขอให้ทำความสะอาดให้ถี่มากขึ้นด้วย
ขณะที่คนไทย 2 ใน 13 คน ได้ให้สัมภาษณ์ ว่า ก่อนจะเดินทางกลับติดต่อนายจ้างไม่ได้เรื่องเงินเดือน มีความกลัว เนื่องจากติดตามดูข่าวทุกวัน อยากกลับบ้าน แต่นายจ้างให้อยู่รอเงินเดือนตั้งแต่ก่อนจะมีข่าวไวรัสโคโรน่าระบาด แล้วก็ขาดการติดต่อไป ได้แต่รอ พอช่วงไวรัสโคโรน่าระบาดร้านค้าก็เริ่มปิด ไม่รู้จะทำอย่างไรจะได้เงิน แต่ก็ขอให้ได้กลับบ้านก่อน
ส่วนหญิงคนไทยอีกรายเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ดีใจได้กลับบ้าน ได้แต่รอทุกวัน ต้องการเงินและกลับบ้าน ยิ่งมีข่าวว่าวันที่ 1 ก.พ. เขาจะเลิกขายตั๋วก็ยิ่งอยากกลับ ที่ฉงชิ่งบรรยากาศเงียบมาก ของสดตามซุปเปอร์ไม่มี พร้อมขอบคุณสื่อที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงที่ทำให้ได้กลับมาหาคนที่เรารัก และสิ่งแรกที่จะทำคือ “การอยู่กับครอบครัว” หลังจากนี้ก็ต้องระวังตัวและป้องกันตัวเอง ซึ่งผ่านการตรวจในสนามบินมาตนเองไม่มีไข้ และได้รับคำแนะนำว่าใน 14 วันนี้ ให้สังเกตอาการ.
แล้วไทยรัฐได้บอกไหมจ๊ะ ว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องกักกันโรคจนกว่าจะแน่ใจ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
แหล่ง: Thairath_News - 🏆 8. / 63 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: Kom_chad_luek - 🏆 61. / 51 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: DailynewsTwit - 🏆 63. / 51 อ่านเพิ่มเติม »