หลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย ตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มพบลดน้อยลงเรื่อยๆ จนล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ และไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม สิ่งนี้เลยยิ่งทำให้กระแสกดดันเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งต่อจากนี้ จะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรกันตั้งแต่ 22 พ.ค.
โดยหากไม่มีวิกฤติสงครามไวรัสโควิด-19 ก็เชื่อได้ว่า กิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ที่จะมีการจัดกิจกรรม งานเสวนา ต่างๆ ทางการเมือง คงคึกคักไม่น้อย สิ่งที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า เป็นการสื่อสารทางการเมืองสมัยใหม่ ที่อย่างน้อยก็เรียกร้องความสนใจ ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ นักศึกษา ที่เติบโตไม่ทันกับการชุมนุมเมื่อสิบปีที่แล้ว ที่เป็นการชุมนุมที่ยืดเยื้อ และเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมากมาย กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น พอเห็นความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่มีการต่อยอด ขยายผลในโลกโซเชียลมีเดีย ก็อาจหันไปให้ความสนใจ ไปหาข้อมูลถึงการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงเมื่อสิบปีที่แล้ว เพียงเท่านี้กลุ่มผู้เคลื่อนไหวดังกล่าวก็คงมองว่า แค่นี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว...