"เนื่องจากบุคลิกดี ใบหน้าหล่อคมคาย จึงมีพ่อยกแม่ยกติดตามผลงานการแสดงมากมาย โดยที่ผ่านมาครูเต้ยเป็นลูกกตัญญู ค่าตัวและพวงมาลัยน้ำใจที่ได้รับจากแฟนคลับ ส่วนหนึ่งก็จะแบ่งมาให้พ่อแม่ และญาติทางบ้านใช้จ่ายตามสมควร ครูเต้ยจึงเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว ที่น่าเสียใจที่สุดคือกำลังจะสร้างบ้านให้พ่อแม่ โดยมาซื้อที่ปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ที่บ้านท่าแสง แต่กลับมาประสบอุบัติเสียชีวิตดังกล่าว"...
ด้านนายพัฒนกร แสงไสย์ อายุ 29 ปี เพื่อนสนิทครูเต้ย กล่าวว่า ตนกับครูเต้ยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นเพื่อนรักและสนิทกันมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะอายุสั้นขนาดนี้ เมื่อคืนยังโทรศัพท์คุยกันอยู่เลย ทั้งนี้ คืนก่อนที่จะเกิดเหตุยังร่วมงานแสดงบนเวทีด้วยกันอยู่เลย ตนมีธุระจึงเดินทางกลับก่อน ไม่น่าเชื่อจะได้รับข่าวร้ายและคนเสียเสียชีวิตจะเป็นครูเต้ย การจากไปของครูเต้ยจึงทำให้สูญเสียบุคคลในวงการบันเทิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งตนและเพื่อนยังรู้สึกเสียใจและยังทำใจไม่ได้ อย่างไรก็ตาม...
ทั้งนี้ ครูเต้ย เรียนจบคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกศิลปะการแสดง จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จากนั้นเดินทางไปตามความใฝ่ฝันและหาประสบการณ์ โดยไปทำงานเป็นนักแสดงหน้าเวทีและนักเต้นรำที่กรุงเทพฯ ก่อนที่พ่อหมอลำวีระพงษ์จะเชิญชวนมาร่วมวงดังกล่าว โดยเป็นทั้งครูฝึกสอนเต้นรำและผู้จัดการวง รวมทั้งร้องรำด้วย ซึ่งวีระพงษ์ วงศ์ศิลป์ กำลังจะปั้นให้เป็นหมอลำดาวเด่นแทนตนในอนาคต และเป็นกำลังหลักสำคัญในการบริหารจัดการวงอีกด้วย แต่กลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว ทำให้บรรดาแฟนวงหมอลำศิลปินภูไทต่างรู้สึกเสียใจ...
อย่างไรก็ตาม สำหรับคณะศิลปินภูไท มีสำนักงานที่ตั้งอยู่ที่ อ.คำม่วง จ.
ซึ่งในยุคนั่นถือว่าเป็นหมอลำที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดใน จ.มหาสารคาม ก็ออกเดินสายลำทั่วอีสานในหลายจังหวัด เช่น ร้อยเอ็ด ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น สกลนคร นครพนม หนองคาย บึงกาฬ และอุบลราชธานี และสุดท้ายตัดสินใจมาตั้งวงเอง เมื่อ พ.ศ.