เมื่อหมอริทนั้นได้อ่านเรื่องมาตรการเยียวยาของรัฐต่าง ๆ แล้วก็พบว่ามาตรการเหล่านั้นกับมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ซึ่งที่ผ่านมาหมอริทไม่เคยคิดใช้สิทธิเหล่านั้น เพราะไม่อยากไปแย่งกับคนที่เดือดร้อนมากกว่า แต่พออ่านแล้วก็งง ว่าจะเยียวยาทั้งทีส่งเงินให้เลยไม่ได้หรอ ข้อมูลต่าง ๆ ภาครัฐก็มีในระบบอยู่แล้ว ก่อนจะย้ำว่านี่เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลพูดในฐานะผู้ที่ไม่รู้เท่านั้น
และในกรณีของคลินิกที่ถูกสั่งปิด ในมุมมองของผู้ประกอบการมองว่าแม้จะได้ประกันสังคมช่วยจ่ายเงินเดือนพนักงานบางส่วนก็จริง ซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จากการที่ถูกปิดไปราว ๆ 400,000 บาท ต่อเดือน แต่ก็ยังคงมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมแล้วคลินิกของหมอริทนั้น ขาดทุนราว 100,000 บาทต่อเดือน ก่อนจะทิ้งท้ายว่ามาตรการกรปิดกิจการนั้นไม่ควรยืดเยื้อมาถึงรอบที่ 3 การเยียวยาตนให้ผ่าน ส่วนการจัดการมาตรการการแพร่ระบาดนั้นโดยส่วนตัวหมอริทรู้สึกไม่ประทับใจ ตั้งแต่เรื่องการจัดสรรวัคซีนต่าง ๆ ทำไมช้า เปอร์เซ็นการฉีดวัคซีนต่ำ และทำไมถึงเลือกวัคซีนไม่ได้ โดยตนพยายามจะมองให้เป็นกลางที่สุด
และถ้าหากการเยียวยาของรัฐบาลเป็นอย่างที่ตนมีข้อมูลนั้นก็รับได้ ยอมปิดคลินิกขาดทุนได้ หากมันจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อยลงตนก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ตราบใดที่ยังได้การเยียวยาอย่างเหมาะสม และเมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาชาวเน็ตส่วนใหญ่ก็ล้วนเข้ามาแสดงความเห็นด้วยกับหมอริทและชื่นชมเป็นจำนวนมาก ที่หมอริทกล้าสงสัย กล้าตั้งคำถาม และยังทำให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของผู้ประกอบการ...