หนุนผู้เล่นรายใหม่-เพิ่มยืดหยุ่น! ‘ธปท.’ ผ่อนหลักเกณฑ์ประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ

  • 📰 isranews_agency
  • ⏱ Reading Time:
  • 45 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 21%
  • Publisher: 53%

ประเทศไทย หัวข้อข่าว ข่าว

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว

หนุนผู้เล่นรายใหม่-เพิ่มยืดหยุ่น! ‘ธปท.’ ผ่อนหลักเกณฑ์ประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ isranews สำนักข่าวอิศรา ธปท

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 27 ภายใต้ พ.ร.บ.

1.ให้ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ สามารถขึ้นทะเบียนกับ ธนาคารเห่งประเทศไทย เพื่อทดสอบการให้บริการด้วยนวัตกรรมใหม่ เพื่อรองรับการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการพัฒนาการให้บริการได้ 2.ปรับการให้ใบอนุญาตจากเดิมที่เป็นรายสถานประกอบการ เป็นรายนิติบุคคล โดยให้ใช้ใบอนุญาตได้กับสถานที่ประกอบธุรกิจทุกแห่ง ซึ่งรวมถึงสำนักงานใหญ่ สาขา และช่องทางให้บริการของนิติบุคคลนั้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดภาระของผู้ประกอบธุรกิจ

3.กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจข้างต้น ต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสม เช่น กำหนดลักษณะต้องห้ามให้ครอบคลุมถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ เพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปตามหลักสากลยิ่งขึ้น และเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อประชาชนผู้ใช้บริการ“การปรับปรุงกฎกระทรวงในครั้งนี้ ยังจะช่วยเอื้อต่อแผนการปรับปรุงภูมิทัศน์ของการประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ ที่ ธปท.

 

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ ความคิดเห็นของคุณจะถูกเผยแพร่หลังจากได้รับการตรวจสอบแล้ว
เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

 /  🏆 38. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ครม.เคาะวันหยุดเอเปค 16-18 พ.ย. 65 วันหยุดพิเศษ ธปท.แจ้งสถาบันการเงินเปิดปกติอัปเดตวันหยุด ครม.เคาะหยุดพิเศษ 16-18 พ.ย.65 เฉพาะกรุงเทพ-ปริมณฑล รับประชุมเอเปค ขณะที่ ธปท.แจ้งสถาบันการเงินเปิดปกติ
แหล่ง: Sanook - 🏆 22. / 63 อ่านเพิ่มเติม »

ธปท. เตรียมปรับเกณฑ์ประกอบธุรกิจ FX รองรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ : อินโฟเควสท์นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 27 (พ.ศ. 2565) ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ ให้ยืดหยุ่นและคล่องตัว รองรับการประกอบธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมใหม่และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงเพื่อยกระดับมาตรฐานกำกับดูแลการประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศให้น่าเชื่อถือ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ดังนี้ 1. ให้ผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ สามารถขึ้นทะเบียนกับธนาคารเห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อทดสอบการให้บริการด้วยนวัตกรรมใหม่ (sandbox) เพื่อรองรับการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการพัฒนาการให้บริการได้ 2. ปรับการให้ใบอนุญาตจากเดิมที่เป็นรายสถานประกอบการ เป็นรายนิติบุคคล โดยให้ใช้ใบอนุญาตได้กับสถานที่ประกอบธุรกิจทุกแห่ง ซึ่งรวมถึงสำนักงานใหญ่ สาขา และช่องทางให้บริการของนิติบุคคลนั้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดภาระของผู้ประกอบธุรกิจ 3. กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจข้างต้น ต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสม เช่น กำหนดลักษณะต้องห้ามให้ครอบคลุมถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ เพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปตามหลักสากลยิ่งขึ้น และเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ ธปท. จะได้ดำเนินการออกหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการดำเนินการตามกฎกระทรวงดังกล่าวต่อไป นางอลิศรา กล่าวว่า การปรับปรุงกฎกระทรวงในครั้งนี้ ยังจะช่วยเอื้อต่อแผนการปรับปรุงภูมิทัศน์ของการประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ (FX Service Provider Landscape) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ …
แหล่ง: InfoQuestNews - 🏆 7. / 68 อ่านเพิ่มเติม »

ธปท.ร่วมลงนาม MOU 4 ธนาคารกลางอาเซียนเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค : อินโฟเควสท์นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินของประเทศในภูมิภาคอาเซียนตามโครงการ ASEAN Payment Connectivity ที่เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 นั้น ในวันนี้ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) และธปท. ได้ตกลงที่จะยกระดับความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงระบบการชำระเงิน เพื่อเพิ่มศักยภาพบริการชำระเงินระหว่างประเทศ ให้รองรับการพัฒนาการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และนวัตกรรมการให้บริการชำระเงินระหว่างประเทศที่ครอบคลุมการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น โดยธนาคารกลางทั้ง 5 แห่ง ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค ที่เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G20 โดยมีนาย Joko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมกล่าวเปิดงาน ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาที่ทั่วโลกเผชิญร่วมกัน และชื่นชมธนาคารกลางทั้ง 5 แห่ง ที่แสดงความมุ่งมั่นในการผลักดันนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะเร่งการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค ทั้งนี้ การเชื่อมโยงระบบการชำระเงิน จะเป็นส่วนสำคัญในการเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค และส่งเสริมให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทั่วถึงมากขึ้น โดยจะช่วยสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ …
แหล่ง: InfoQuestNews - 🏆 7. / 68 อ่านเพิ่มเติม »

ธปท.ย้ำเศรษฐกิจไทยปีหน้าโต 3.8% ย้ำขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -14 พ.ย. 65 11:20 น.   ธปท. คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.3% ส่วนปีหน้ามอง 3.8% ประเมินเศรษฐกิจกลับไปฟื้นเท่าก่อนโควิดได้ปลายปีน...
แหล่ง: eFinanceThai - 🏆 17. / 63 อ่านเพิ่มเติม »

อนุสรณ์ ชี้ดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นแรงหาก ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย-แบงก์ผลักภาระหนี้ FIDF : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาดการเงินโลกเริ่มชะลอตัวว่า หลายประเทศเริ่มมีสัญญาณสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ แรงกดดันเงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัยยสำคัญในหลายภูมิภาค ตลาดการเงินและเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ความวิตกกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอยคลายตัว และคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกน่าจะอยู่ที่ระดับ 2.7-2.8% อัตราการขยายตัวของการค้าโลกอยู่ที่ระดับ 2.5-2.6% แม้จะเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและปริมาณการค้าของโลกที่ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยในช่วงปี พ.ศ.2553-2562 แต่ก็ถือว่าเศรษฐกิจโลกไม่ได้เผชิญภาวะถดถอยใดๆ แต่อาจจะมีบางประเทศเท่านั้นที่ประสบภาวะถดถอยในปีหน้า ผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครนเบาบางลง สงครามไม่ขยายวงกว้างแต่อาจยืดเยื้อต่อไป การเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง ดุลบัญชีเดินสะพัดที่จะเกินดุลในปีหน้า กระแสเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในอาเซียนและไทย ทั้งภาคเศรษฐกิจจริงและตลาดการเงิน จะทำให้เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าค่อนข้างเร็วและแรงกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้เดิม เงินบาทจะทยอยปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปี 2565 และต้นปี 2566 โดยคาดว่าค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 34.50-36.50 บาท/ดอลลาร์ในปี 2566 โดยอาจจะมีบางช่วงที่เห็นเงินบาททดสอบระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ได้ กระแสเงินระยะสั้นไหลเข้าตลาดหุ้นพร้อมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนโดยภาพรวมที่ดี และราคายังไม่แพงนัก ทำให้ตลาดหุ้นในอาเซียนและไทยมีปัจจัยที่ดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาตินอกภูมิภาค คาดว่าอาจได้เห็นดัชนีตลาดหุ้นทดสอบ 1,680-1,700 ในช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้าได้ หาก ธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปลายเดือนนี้มากกว่าที่ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มอีก 0.25% จะส่งผลทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก การปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่มีนัยยะสำคัญต่อการควบคุมอัตราเงินเฟ้อในระยะสั้น ไม่มีผลต่อตลาดหุ้นโดยภาพรวมมากนัก แต่จะกระตุ้นให้หุ้นในกลุ่มธนาคาร การเงินและประกันน่าสนใจมากขึ้น อาจทำให้หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และบริษัทที่มีโครงสร้างทางการเงินที่มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนสูงมีความน่าสนใจน้อยลง การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อเสริมด้วยกับการที่ระบบธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม FIDF สูงขึ้น …
แหล่ง: InfoQuestNews - 🏆 7. / 68 อ่านเพิ่มเติม »

ธปท.ทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงินไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัลทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงินไทย:ส่องอดีต ดูปัจจุบัน มองสู่อนาคตหนุน ประชาชนใช้บริการเท่าทันภัยทุจริต -ภาคธุรกิจเชื่อมการชำระเงินยกระดับการแข่งขัน ผลักดันรัฐบาลดิจิทัล ตามแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิทัล
แหล่ง: Thansettakij - 🏆 23. / 63 อ่านเพิ่มเติม »