เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 63 ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/63 นั้น -6.4% ซึ่งถือเป็นการติดลบน้อยลงจากไตรมาส 2/63 ที่ -12.1%
ทั้งนี้ ภาพรวม 9 เดือนของปี 63 เศรษฐกิจไทย -6.7% โดยปัจจัยหนุนการเติบโตเศรษฐกิจไตรมาส 3 มาจากการใช้มาตรการคลายล็อกดาวน์ที่ส่งผลให้กิจกรรมกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น รวมถึงการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกไตรมาส 3 ฟื้นตัวขึ้นหลังจากติดลบต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาส 2/63อย่างไรก็ตาม สศช.ได้ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 2563 ดีขึ้น แต่ -6% จากเดิมที่คาดไว้ในช่วงเดือน ส.ค.ว่าจะ -7.5% และเศรษฐกิจไทยจะกลับมาเป็นบวกได้ในปี 2564 ที่ 3.5-4.
"อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับสูง และชั่วโมงการทำงานยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ และความเป็นอยู่ของครัวเรือนในด้านต่างๆ อีกทั้งแรงงานจบใหม่ แรงงานอายุน้อย และมีการศึกษาสูง ยังมีปัญหาการว่างงานเป็นจำนวนมาก" ขณะที่แรงงานในระบบมีการว่างงานเพิ่มขึ้น โดยผู้ขอรับสิทธิว่างงาน 488,000 คน คิดเป็นอัตราผู้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานต่อผู้ประกันตนภาคบังคับที่ 4.4% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 3.5%
นอกจากนี้ ปัญหาหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว โดยสถานการณ์หนี้สินครัวเรือนไตรมาส 2/63 มีมูลค่า 13.59 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% ซึ่งชะลอลงจาก 4.1% ในไตรมาส 1/63 โดยมีสาเหตุจากการหดตัวรุนแรงของเศรษฐกิจ ความเปราะบางทางการเงินครัวเรือนเพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมคุณภาพสินเชื่อยังมีความเสี่ยงและต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด.
เด็กชังชาติ หางานยากแน่ หมายหัวหมดแล้ว