คำว่า “มีลุ้น” มันหมายถึงการมีโอกาสที่จะทำได้ มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรถ้ามีแฟนลิเวอร์พูลบอกว่าอยากได้ทั้ง 2 แชมป์ในปีนี้ มันไม่ใช่เรื่องขี้โม้หรืออะไร เพราะตราบใดที่ยังมีความหวัง ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
เริ่มกันที่ถ้วยแรกที่มีโอกาสใกล้เคียงมากที่สุดนั่นก็คือ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดอะค็อปทั่วโลกต้องการแชมป์นี้มากที่สุด เพราะนั่นคือการสิ้นสุดการรอคอยที่พวกเขาเฝ้ารอมาอย่างยาวนาน มันเคยเกือบจะเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2013-14 แต่สุดท้ายก็พลาดไป นั่นไม่ใช่ความผิดหวัง นั่นคือแรงกระตุ้นชั้นยอด คือแรงกระหายครั้งใหญ่ที่ทำให้พวกเขาพยายามพัฒนา และแก้ไขปรับปรุงทีมมาอย่างต่อเนื่อง...
ที่น่าสนใจก็คือพวกเขาทำได้ดีเสียด้วย ค่อยๆ ปรับทีละจุด ทั้งแนวรุก ทั้งเกมรับ กองกลาง ยันผู้รักษาประตู กล้าทุ่มเงินเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลง จนก้าวมาท้าแชมป์อย่างเต็มตัวในซีซั่นนี้ ปัจจุบันมีแต้มตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 คะแนน และเหลือการแข่งขันอีก 2 นัด ต้องยอมรับว่าหงส์แดงเสียเปรียบเรือใบสีฟ้าที่แค่ชนะ 2 นัดรวดก็ได้แชมป์แน่นอนแล้ว แต่หน้าที่ลิเวอร์พูลในโมเมนต์นี้คือชนะ 2 นัดที่เหลือให้ได้...
ขณะที่ถ้วยใบยักษ์อย่าง แชมเปียนส์ลีก ลิเวอร์พูลต้องเจอกับยอดทีมของโลกอย่าง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ในรอบรองชนะเลิศ หลายฝ่ายมองว่าพวกเขาเป็นรองอยู่พอสมควร แต่ข้อดีก็คือมันจะทำให้พวกเขาลงไปเล่นด้วยความไม่กดดัน เล่นตามสไตล์ ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับทั้ง 2 เกมนี้ เพราะมองตามความเป็นจริงก็ไม่ได้เป็นรองอะไรขนาดนั้น พญาหงส์มีแนวรุกที่ขึ้นชื่อว่าร้อนแรงที่สุดทีมหนึ่งในโลก กองหลังก็มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นตัวชูโรง ตัวชี้วัดในเกมนี้ไม่ได้อยู่ที่ ลิโอเนล เมสซี หรือ มาเน, ซาลาห์ จะท็อปฟอร์ม แต่อยู่ที่...