แต่การให้ทุนหรือการแข่งขันเหล่านี้ก็เป็นเหมือนดาบสองคมนะคะ อาจจะมีสตาร์ทอัพบางเจ้าที่ได้เงินทุนมาจากหลายๆ แหล่งพร้อมกัน ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณกำลังให้ทุนกับสตาร์ทอัพจำนวนน้อยกว่าที่คิดเมื่อมองในภาพรวม และยังมีภาระด้านการจัดการที่พ่วงมากับการให้ทุน อย่างเช่นการตระเตรียมเอกสารการสมัคร การติดตามผลการดำเนินงาน และการจัดทำรายงาน นอกจากนี้ การเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมรายการแข่งขันบางครั้งก็อาจจะดันทำให้สตาร์ทอัพว่อกแว่ก...
คิดว่าเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือการสร้างตำแหน่งงาน โดยเฉพาะงานสำหรับคนรุ่นใหม่ ตัวอย่างแรกๆ คือการออกกฎหมาย พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise Promotion Act ซึ่งเชื่อมโยงการสร้างตำแหน่งงานผ่านการสนับสนุนงานบริการเพื่อสังคม แทนที่จะอยู่ใต้การควบคุมของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ นโยบายนี้อยู่ใต้กระทรวงการจ้างงานและแรงงาน
อย่างไรก็ตาม อัตราการล้มเหลวของสตาร์ทอัพก็สูงมาก ไม่เฉพาะในเกาหลี แต่ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ หากเป้าหมายของการสร้างสตาร์ทอัพนั้นคือ การสร้างงาน นี่ก็จะนำไปสู่ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในที่สุด เพราะแม้ว่านโยบายนี้จะสามารถปลุกปั้นให้สตาร์ทอัพผุดขึ้นมาได้แบบสังเคราะห์ ตัวเลขมันอาจจะออกมาดูดีก็จริง โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องทำให้การใช้งบของรัฐบาลหรือบริษัทออกมาดูสมเหตุสมผล แต่อัตราการล้มเหลวของสตาร์ทอัพนี่แหละ ที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ...
เมื่อเร็วๆ นี้เอง หนึ่งในแรงขับเคลื่อนนโยบายปลุกปั้นสตาร์ทอัพมาจากการเป็นความภาคภูมิใจของชาติ และฉันก็คิดว่ารัฐบาลพุ่งเป้าไปที่การสร้างยูนิคอร์นเป็นหลัก แต่ลักษณะของสตาร์ทอัพบางแห่งอาจไม่สามารถขยายขนาดกิจการไปถึงระดับนั้นได้ ซึ่งนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีคุณค่าหรือไม่ประสบความสำเร็จนะ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
แหล่ง: Thairath_News - 🏆 8. / 63 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: DailynewsTwit - 🏆 63. / 51 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: Kom_chad_luek - 🏆 61. / 51 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: thaipost - 🏆 62. / 51 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: SpringNews - 🏆 10. / 63 อ่านเพิ่มเติม »