เป็นไปตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์เอาไว้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ เมื่อคืนวันที่ 2 พ.ย ที่ผ่านมา มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ทำให้อัตราดอกเบี้ยเฟดปรับขึ้นมาอยู่ระดับ 3.75-4% เป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี
สัญญาณที่ส่งออกมาจากเฟด ทำให้ตลาดเงินเริ่มตีความว่า เฟด น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยจนไปแตะระดับที่ไม่น้อยกว่า 5% ส่งผลต่อเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่า และทำให้เงินสกุลต่างๆ อ่อนค่าลง รวมถึงเงินบาทไทยด้วย โดยเมื่อวานนี้ เงินบาทปิดตลาดที่ 38.03 บาท อ่อนค่าลงราว 0.
ส่วนการเคลื่อนไหวค่าเงินบาท เทียบดอลลาร์ในวานนี้ ปรับอ่อนค่าลง 0.8% และดัชนีค่าเงินบาท ปรับอ่อนลง 0.34% ด้านเงินทุนเคลื่อนย้าย ยังไม่พบสัญญาณผิดปกติ แต่สิ่งที่กังวล หากเข้าไปแทรกแซงเงินบาทมากขึ้น ท้ายที่สุดอาจไม่สามารถดูแลเงินบาทได้ หากไม่เปลี่ยน Fundamental หรือปัจจัยพื้นฐานของไทย ดังนั้นการเข้าไปแทรกแซงเงินบาท อาจช่วยพยุงเงินบาทไม่ให้อ่อนค่ามากได้ในระยะสั้นๆ เท่านั้น ท้ายที่สุดประเทศไทยอาจซ้ำรอยกับญี่ปุ่นได้ ที่ทุนสำรองลดลงค่อนข้างมาก จากการเข้าไปดูแลค่าเงิน
อย่างไรก็ตาม มองว่า ภายใต้เงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงที่ 6% อาจมีความจำเป็นที่แบงก์ชาติต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยไปใกล้ระดับ 2% เพื่อดูแลความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หรือขึ้นดอกเบี้ยไปใกล้ระดับ Neutral rate ให้มากที่สุด ทั้งนี้ที่กังวลคือ เมื่อส่วนต่างดอกเบี้ยยิ่งสูงขึ้น ระหว่างดอกเบี้ยไทย และสหรัฐ ยิ่งสร้างแรงกดดันให้เกิดเงินทุนไหลออก และส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทให้ยิ่งอ่อนค่ามากขึ้น แม้จะมองว่า ระยะสั้น เงินบาทจะแข็งค่าได้ในปลายปี จากท่องเที่ยวที่เข้ามาเพิ่มขึ้น แต่ส่วนต่างดอกเบี้ยที่มากขึ้น มองว่าเงินบาทมีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าต่อเนื่องไปถึงกลางปีหน้า สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทปลายปีนี้มีโอกาสอ่อนค่าแตะ 40 บาทต่อดอลลาร์ และไตรมาส 2 ปีหน้าอาจเห็นเงินบาทอ่อนค่าแตะ 42 บาทต่อดอลลาร์...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
แหล่ง: DailynewsTwit - 🏆 63. / 51 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: Thairath_TV - 🏆 45. / 51 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: TNAMCOT - 🏆 51. / 51 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: naewna_news - 🏆 43. / 51 อ่านเพิ่มเติม »
แหล่ง: siamsport_news - 🏆 26. / 63 อ่านเพิ่มเติม »