เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นโค้งน้ำซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำลดลง และริมน้ำฝั่งไทยเต็มไปด้วยโขดหิน ทำให้เรือต้องแล่นเลียบฝั่งรัฐกะเหรี่ยง
ชาวบ้านสาละวินเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 12 ตุลาคม 2564 โดยทหารพม่าได้ยิงปืนขู่หลายนัดเพื่อให้เรือขนสินค้าลำดังกล่าวจอดเทียบชายฝั่ง จากนั้นทหารพม่าได้ช่วยกันขนข้าวของทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำนวน 6 กล่อง ไก่ 20 ตัว ปลากระป๋อง รวมทั้งหอมแดงและมันอาลูอีกจำนวนหนึ่ง “ตอนนี้ทหารพม่ากำลังลำบากเนื่องจากถูกปิดกั้นเส้นทางลำเลียงเสบียงโดยทหาร KNU เพื่อกดดันให้ฐานทหารพม่าย้ายออกจากพื้นที่ริมแม่น้ำสาละวิน จริงๆ แล้วทหารพม่าต้องการข้าวสาร แต่เรือลำนี้ไม่ได้บรรทุกข้าวสารไป” ชาวบ้าน กล่าว และว่าหลังจากขนถ่ายสินค้าขึ้นไปยังฐานปฎิบัติการแล้ว ทหารพม่าได้ทำการสอบสวนคนขับเรือและปล่อยตัวรวมทั้งเรือในเวลาต่อมา
ข่าวแจ้งว่า ฐานทหารพม่าจ๊อก หยะ ตั้งอยู่บนดอยสูงและต้องใช้เวลานับชั่วโมงกว่าจะเดินเท้าลงมาถึงริมแม่น้ำสาละวิน แต่เนื่องจากความขาดแคลนเสบียงอย่างหนัก ทำให้ทหารพม่าบางส่วนลงมาดักซุ่มอยู่ริมแม่น้ำ และได้ยิงปืนข่มขู่เรือบรรทุกสินค้าที่ผ่านเส้นทางเพื่อขอเสบียง โดยที่ผ่านมาคนขับเรือพยายามเลี่ยงแล่นเรือออกห่างจากฝั่ง...
อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2564 ได้ปรากฏข่าวดังเมื่อมีข้าวสาร 700 กระสอบ พร้อมเสบียงอื่นๆ มากองไว้ที่ท่าเรือบ้านแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเตรียมจัดส่งให้ฐานทหารพม่าริมแม่น้ำสาละวิน โดยสื่อมวลชนหลายสำนักได้รายงานตรงกันว่าเสบียงดังกล่าวทหารพม่าได้จัดส่งเข้ามาทางด่านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยได้ประสานผ่านทหารไทย เนื่องจากเส้นทางลำเลียงด้านอื่นในฝั่งรัฐกะเหรี่ยงถูกสกัดกั้นจากทหาร KNU หมดทุกทางจึงต้องลำเลียงผ่านประเทศไทยข้ามแม่น้ำสาละวิน...