ระบาดหนักยิ่งกว่าไวรัสโควิด-19 ในตอนนี้ ก็คงไม่พ้นกระแส ความเกลียดชังชาวเอเชียในประเทศตะวันตก ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯจะพยายามเรียกร้องให้คนอเมริกันปรับเปลี่ยนทัศนคติ และเร่งผ่านกฎหมายต้านอาชญากรรมจากโควิด-19 ในการเพิ่มอำนาจให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเพื่อตรวจสอบและจัดการกับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติและศาสนา แต่ดูเหมือนสถานการณ์ความรุนแรงจากอาชญากรรมจากความเกลียดชังนี้จะไม่ลดลง...
ใครจะนึกเล่าครับ ว่าสหรัฐฯตอนนี้จะกลายเป็นประเทศบ้านป่าเมืองเถื่อนที่ใครจะนึกทำร้ายใครที่ไหนก็ได้ ทั้งริมถนน ใจกลางเมือง ในรถไฟใต้ดิน หรือแม้แต่หน้าบ้านตัวเอง ช่วงปีที่ผ่านมาภาพความรุนแรงส่วนใหญ่จะเป็นอเมริกันผิวขาว ที่ตะโกนไล่คนเชื้อสายเอเชียให้กลับบ้านไป หรือแม้แต่ทำร้ายร่างกาย มาวันนี้ไม่ใช่ครับ ผู้อ่านท่านลองดูกรณีที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ส่วนใหญ่คือชาวเอเชียที่ถูกทำร้ายโดยคนแอฟริกัน–อเมริกัน
แอฟริกัน-อเมริกันเป็นเชื้อสายที่ถูกกดขี่ข่มเหงตลอดมาในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ มีการต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิและเสรีภาพแก่เผ่าพันธุ์ของตนมายาวนาน ผมไม่แน่ใจว่า การใช้ความรุนแรงของแอฟริกัน-อเมริกันที่ทำต่อเอเชียน-อเมริกันนั้นเกิดจากความต้องการปลดปล่อยสิ่งที่ตัวเองเคยถูกกระทำหรือไม่ เพราะที่เห็นในคลิปส่วนใหญ่จะเป็นการทำร้ายเหยื่อที่อ่อนแอกว่าโดยเฉพาะคนชรา และทำร้ายโดยเหยื่อไม่ทันตั้งตัว
ไม่เพียงชุมชนชาวเอเชียในสหรัฐฯเท่านั้นที่ออกมาต่อต้านความเกลียดชังชาวเอเชีย แต่ในแคนาดากับนิวซีแลนด์ก็มีการออกมาเรียกร้องให้หยุดความเกลียดชังชาวเอเชีย หรือ ‘Stop Asian Hate’ เช่นกัน แสดงว่า ขณะนี้คนเอเชียไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนในประเทศตะวันตก ล้วนมีความเสี่ยงต่อการเป็นเหยื่ออาชญากรรมหรือถูกเลือกปฏิบัติจากความเกลียดชังในเชื้อชาติสีผิวทั้งสิ้น
ไบเดนต้องเร่งสร้างความสามัคคีระหว่างเชื้อชาติให้มากขึ้น สหรัฐเองเป็นประเทศที่มีเชื้อชาติหลากหลาย แต่ก็มาถูกทำลายหรือชี้นำโดยผู้นำคนก่อน หากโจไบเดนไม่แก้ไขอาจทำให้ประเทศร้อนระอุเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ โจไบเดนทำได้อยู่แล้ว คุณทำได้
อเมริกันไม่มีประวัติศาสตร์ มันเกิดจากการที่หลายเผ่าพันธุ์มาแสวงหาผลประโยชน์จากการขับไล่อินเดียนแดง
ของเขาทำร้ายกันเพราะต่างสีผิว ของเราทำร้ายกันเพราะความเห็นต่าง