เนื่องจากมาตรการหลายอย่างที่ประกาศออกมาขัดแย้งกันเอง เช่น ห้ามกลับต่างจังหวัด แต่ไม่ห้ามการเดินทางของประชาชน ประกอบกับการปิดห้างร้าน สถานบริการ สถานบันเทิงใน กทม. โดยไม่มีมาตรการเยียวยาให้ก่อน ก็เลยทำให้คนแห่กันกลับต่างจังหวัด ถือทัศนคติ กลับไปตายบ้านเกิดดีกว่ามาอดตายใน กทม.
ยามเมื่อคนไทยไม่มีอาชีพ ก็ต้องหารายได้ตุนเอาไว้ การลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือเยียวยา หรือการรับเงินค่าประกันไฟฟ้าคืน จึงเป็นมหกรรมที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนไทยในยามนี้ เช่น การขอเงินประกันไฟฟ้าคืน วันแรกมีจำนวนถึง 5.4 หมื่นราย รวมเป็นเงิน 1.1 พันล้านบาท ไม่สนว่าจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ ขอเก็บเงินสดเอาไว้ในมือให้อุ่นใจก่อน
ส่วนการลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐ จากผู้มีสิทธิดังต่อไปนี้ คือ ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ซึ่งออกจากงาน หรือไม่ทำงานประจำแล้ว แต่ยังส่งเงินเข้าระบบประกันสังคม หรือลูกจ้างชั่วคราว ตามสถานประกอบการและสถานบริการ ผู้มีอาชีพอิสระหรือผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่จ่ายเงินสมทบเองหรือแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม กรณีที่ต้องว่างงาน เนื่องจากมีการปิดกิจการชั่วคราว จะรับเงินจากกองทุนประกันสังคมในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 180วัน...
สำหรับแรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว และอาชีพอิสระที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมดังกล่าว ดูจากกติกาแล้วน่าจะมีปัญหา เริ่มที่การลงทะเบียนที่ไม่มีชื่อปรากฏในระบบของผู้ใช้แรงงาน มีปัญหากันเยอะก็เลยมีคำถามว่า ไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบทั้งที่มีประกันสังคมและไม่มีประกันสังคมในระบบของผู้ใช้แรงงาน ก็น่าจะได้รับอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ยกเว้นคนที่มีบัตรคนจน หรือคนที่ได้รับเงินจากกองทุนประกันสังคมอยู่แล้ว
ความสับสนยังไม่เฉพาะหมู่ชาวบ้านแต่ระบาดไปถึงคนทำงานเอง เอาแค่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ทั้งโฆษก-รองโฆษก ทั้งทำเนียบรัฐบาล ทั้ง สาธารณสุข แย่งซีนกันทุกวัน ในที่สุดต้องประกาศให้เหลือแค่ศูนย์เดียว ตั้งให้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ทำหน้าที่โฆษกแต่เพียงผู้เดียว
หยุด ขนส่งเถอะครับ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
แหล่ง: Thairath_News - 🏆 8. / 63 อ่านเพิ่มเติม »