ชายอเมริกันในรัฐนอร์ทคาโรไลนา ใช้กฎหมายเก่าแก่ฟ้องเอาผิดชู้รักอดีตเมีย ได้ค่าเสียหายกว่า 22 ล้าน
เควิน โฮเวิร์ด ชายชาวอเมริกันในรัฐนอร์ทคาโรไลนา ชนะคดีที่ยื่นฟ้องอดีตเพื่อนร่วมงานที่ลักลอบมีสัมพันธ์สวาทกับภรรยาจนนำไปสู่การหย่าร้าง เรียกค่าชดเชย 7.5 แสนดอลลาร์ ( ราว 22 ล้านบาท ) โดยใช้กฎหมายที่เปิดทางให้ฟ้องบุคคลที่สามทำให้สามีภรรยาบาดหมางหรือเหินห่าง ( alienation of affection law )
กฎหมายที่มักเรียกกันง่ายๆว่า กฎหมายเอาผิดคนทำบ้านแตก ยังคงใช้กันอยู่ไม่กี่รัฐในสหรัฐอเมริกา นอกจากนอร์ทคาโรไลนา ยังมีที่รัฐฮาวาย อิลลินอยส์ มิสซิสซิปปี นิวเม็กซิโก เซาท์ดาโกตา ยูทาห์
ชีวิตคู่ของโฮเวิร์ด ที่ดำเนินมานาน 12 ปี ต้องสิ้นสุดลงหลังจากภรรยาขอแยกทาง โดยบอกเหตุผลว่า เพราะเขาทำแต่งาน ไม่มีเวลาให้ ทั้งคู่เริ่มเข้าปรึกษาจิตแพทย์เพื่อรักษาชีวิตคู่ แต่อีกด้าน โฮเวิร์ดก็เริ่มสงสัยพฤติกรรมภรรยา และจ้างนักสืบเอกชนที่ต่อมาเปิดโปงการคบชู้ของเธอ
โฮเวิร์ด กล่าวว่า การหย่าร้างสำหรับเขาเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เผชิญมา เหมือนกับมีใครโทรศัพท์มาแจ้งข่าวว่าคนในครอบครัวเสียชีวิต เขาโทษตัวเองว่าทำผิดพลาด ก่อนรู้สึกจุก กับความไว้ใจและความรักตลอด 12 ปี ชายชู้เป็นเพื่อนร่วมงาน ที่เคยมารับรับประทานอาหารค่ำที่บ้าน แลกเปลี่ยนเรื่องราวและเรื่องส่วนตัวของกันและกัน และจงใจเข้ามาทำลายชีวิตครอบครัวของเขา
ซินดี มิลส์ ทนายความของโฮเวิร์ด กล่าวว่า ตอนแรก คู่กรณีลูกความของเธอหัวเราะ เมื่อรู้ว่าจะถูกฟ้องข้อหานี้ แต่ตอนนี้เขาคงหัวเราะไม่ออกอย่างแน่นอน เพราะต้องจ่าย 7.5 แสนดอลลาร์ เธอกล่าวว่า คดีฟ้องเอาผิดทำลายชีวิตสมรส มีจำนวนพอสมควร อย่างน้อย 30 คดีที่เธอทำ และมีลูกความ 1 คนที่เคยชนะได้ค่าเสียหาย 5.6 ล้านดอลลาร์มาแล้วในปี 2553
แนวคิดของกฎหมายนี้คือการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ชีวิตแต่งงาน และสถาบันครอบครัว เหมือนกับคดีทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ หากคนมาทำร้ายคุณ คุณก็เรียกค่าเสียหายได้ ทำนองเดียวกัน หากใครทำให้ชีวิตคู่มีอันเป็นไป ก็ต้องมีค่าเสียหาย
หากคู่กรณีไม่มีจ่าย เขาก็ต้องเป็นหนี้โฮเวิร์ด แต่โฮเวิร์ด กล่าวว่าการยื่นฟ้องครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นการสร้างบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต “ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่คนต้องเข้าใจความศักดิสิทธิ์ของการแต่งงาน โดยเฉพาะในยุคที่คนเรามักตั้งคำถามเรื่องศีลธรรม ครอบครัวอื่นควรได้เห็นถึงผลตามมาของการทำลายคำสาบานไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด และต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง