โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการร้อยใจรักษ์ ทำให้เห็นชาวบ้านที่มีอาชีพเกี่ยวกับยาเสพติดเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการเริ่มอาชีพใหม่ แต่ถ้าปล่อยช่วงรอยต่อให้เปลี่ยนแบบปกติ ก็เสี่ยงที่จะกลับมาทำแบบเดิม ดังนั้นโครงการนี้ ก็จะช่วยป้องกัน ซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้พื้นที่อื่นด้วย ส่วนการลงพื้นที่ด่านสันต้นดู่ เนื่องจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น 12 ครั้ง สามารถจับยาบ้าได้ 37 ล้านเม็ด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อันตราย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ประจำจุด ทางปปส.คงต้องเยียวยาเรื่องเงินเดือน
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงตัวเลขยาเสพติดว่า จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ยาเสพติดภาคเหนือ คิดเป็น 60 % ของปี 2562 ที่สามารถจับยาบ้าได้ 510 ล้านเม็ด เป็นของพื้นที่ภาคเหนือ 324 ล้านเม็ด ส่วนยาไอซ์ 14 ตัน เป็นของภาคเหนือ 3.8 ตัน ดังนั้นพื้นที่ภาคเหนือที่เป็นจุดผ่าน ต้องเฝ้าระวัง รวมถึงต้องสกัดทั้งด่านชายแดน และด่านที่อยู่ในประเทศ อาทิ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เนื่องจากเป็นเส้นทางจากพม่าถึงลาว โดยคั้นแค่ 3 จังหวัดเท่านั้น
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ มั่นใจว่า การปราบปรามยาเสพติดได้รับความร่วมมือจากประเทศลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะสามเหลี่ยมทองคำ ที่เป็นแหล่งผลิต ซึ่งเดือนพ.ย.นี้ ก็จะมีการประชุมร่วมกันด้วย เพื่อติดตามสถานการณ์ ขณะเดียวกัน ให้คำเชื่อมั่นว่า ยาเสพติดจะยืนอยู่ไม่ได้ เนื่องจากหลายประเทศร่วมแรงร่วมใจกัน เพราะเป็นอันตรายมาก จึงอยากฝากคนในครอบครัวที่มีคนเสพยา ให้ช่วยกันดูแล มอบความรัก ถึงจะแก้ปัญหานี้ได้ และการเลิกยาคือความสุขที่จะตามมาทั้งครอบครัว ชุมชน และประเทศของเรา