svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"สมศักดิ์" ชี้ ครอบครัวเหยื่อ "แพรวา" ได้รับ 41 ล้าน สิ้นเดือน ส.ค.นี้

23 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงคดี "แพรวา 9 ศพ" เผยครอบครัวเหยื่อต้องได้รับการเยียวยาเร็วที่สุด คาดว่าจะไม่เกินภายในวันที่ 28-29 สิงหาคมนี้

"สมศักดิ์" ชี้ ครอบครัวเหยื่อ "แพรวา" ได้รับ 41 ล้าน สิ้นเดือน ส.ค.นี้


จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 62 นางถวิล เช้าเที่ยง อายุ 71 ปี มารดาของ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง หรือ ดร.เป็ด เหยื่อ 1 ใน 9 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถเก๋งชนรถตู้ จนรถตู้ตกทางด่วนเสียชีวิต 9 ศพ เมื่อปี 53 เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีลูกชายว่า ล่าสุดนั้นทางเจ้าของกองทุนได้แจ้งผ่านมายังนายอำเภอเมืองราชบุรีว่า จะขอเยียวยาให้แก่ครอบครัว ทางนายอำเภอเมืองราชบุรี มีความประสงค์อยากจะมอบเงินให้ตนเอง และบุคคลที่เหลือในคดีรวม 9 คน เป็นค่าเดินทางแบ่งคนละ 45,000 บาท ตนจึงบอกว่าให้นำเงินที่จะเอามาให้นั้นไปรวมกับเงินที่ศาลตัดสินจำนวน 1.5 ล้านบาท เอาไปรวมกันก่อนแล้วค่อยเอามาให้ทีเดียว
นางถวิล กล่าวว่า ถึงแม้จะได้รับเงินเยียวยามาแล้วก็ยังคงยึดอาชีพร้อยพวงมาลัยขายอย่างนี้ไปก่อนเพราะยังคงทำไหว และเตรียมที่จะทำบุญเลี้ยงพระ 100 รูป เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้กับลูกชาย หลังจากที่ได้ไปบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่ และพระก็ได้บอกกับตนเองไว้ว่า ถ้าได้เงินจากคดีนี้แล้วขอให้ทำบุญครั้งใหญ่ โดยจะจัดพิธีทำบุญที่วัดเกาะนัมทาปทวลัญชาราม ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นวัดที่เคยจัดงานฌาปนกิจศพลูกชาย

"สมศักดิ์" ชี้ ครอบครัวเหยื่อ "แพรวา" ได้รับ 41 ล้าน สิ้นเดือน ส.ค.นี้

มารดาดร.ศราสตรา กล่าวอีกว่า ตนเองอยากให้คดีจบเร็ว ๆ จึงได้ไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนบานไว้ขอให้คดีจบง่าย ๆ โดยเร็ว และเคยอธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้าน ยกมือไหว้ขอพรเจ้าที่เจ้าทางที่บ้านขอให้ไปพบเจอแต่สิ่งดี ๆ เคยแม้กระทั่งขอให้ดวงวิญญาณลูกชายช่วยเหลือขอให้มีอะไรดี ๆ ขึ้นมาบ้าง เพราะแม่เหนื่อยมานานมากแล้ว ขอให้จบเรื่องทีเถิด ต่อมาคู่กรณีมีโฉนดที่ดินมาแสดงให้ดูแล้วคงจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เงินเยียวยาก็ไม่ได้เยอะมากมาย ถ้าลูกชายอยู่ ขั้นแรกจะได้เงินเดือนเกือบ 5 หมื่นบาท ถ้าถึงปัจจุบันนี้คาดว่าจะได้เงินเดือนเป็นแสนบาทแล้ว ส่วนเรื่องคดีนี้ทราบข่าวว่าทางกระทรวงยุติธรรมจะมีการประชุมเรื่องนี้ในวันนี้ด้วย
ล่าสุด 23 ก.ค. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่ น.ส. อรชร หรือแพรวา ขับรถเก๋งชนกับรถตู้โดยสาร บนทางยกระดับโทลล์เวย์ขาเข้า ช่วงด้านหน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. 2553 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 9 คน
นายสมศักดิ์ บอกว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อ โดยขณะนี้ได้เร่งดำเนินการประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง 
โดยภาพรวมความคืบหน้าคดีในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการตามข้อกฎหมายของศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาเร็วที่สุด 
ในส่วนของจำเลยคดีนี้มี 4 รายคือ น.ส.แพรวา เป็นจำเลยที่ 1 บิดาและมารดาของ น.ส.แพรวา เป็นจำเลยที่ 2 และ 3 และนายสุพิรัฐ จ้าววัฒนา ผู้ครอบครองรถยนต์ซีวิค เป็นจำเลยที่ 4 โดยขั้นตอนการบังคับคดีทราบว่า ขณะนี้ศาลฎีกาได้มีคำสั่งและส่งคำบังคับให้จำเลยทั้ง 4 รายแล้ว แต่เนื่องจากจำเลยอยู่ต่างภูมิลำเนา จึงทำให้คำสั่งบังคับคดีส่งไปถึงไม่พร้อมกัน
โดยจำเลยที่ 2 และ 4 มีการปิดหมายเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ส่วนจำเลยที่ 1 และ 3 มีการปิดหมายเมื่อวันที่ 13 ก.ค. แต่เนื่องจากตามกฎหมายต้องนับไปอีก 15 วัน เท่ากับว่าจะครบกำหนดในวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งจำเลยต้องมาชำระเงินเยียวยาให้กับโจทก์ใน 30 วัน คาดว่าจะไม่เกินวันที่ 28-29 ส.ค.นี้ จำเลยต้องมาดูแลเรื่องสินไหมทดแทนต่างๆให้ครบทั้งหมด จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ศูนย์นิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์จะไปขอออกหมาย โดยศาลจะตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อได้หมายแล้วจะเป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดีที่จะดำเนินการต่อไป 

"สมศักดิ์" ชี้ ครอบครัวเหยื่อ "แพรวา" ได้รับ 41 ล้าน สิ้นเดือน ส.ค.นี้


ส่วนตัวเลขความเสียหายที่ศาลมีคำสั่งให้จำเลยทั้ง 4 ชดใช้ให้กับโจทก์ทั้ง 25 ราย เป็นเงิน 25 ล้านบาท หากคิดดอกเบี้ยทั้งต้นและดอก รวมเป็นเงิน 41 ล้านบาท หากมีการจ่ายเงินล่าช้า ผลกระทบจะไปตกอยู่ที่จำเลย เนื่องจากจะต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
โดยกระทรวงยุติธรรมได้แต่งตั้ง นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ประสานงานในคดีนี้ หากผู้เสียหายหรือบุคคลใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรายละเอียดของคดีสามารถสอบถามความคืบหน้าได้
ส่วนเรื่องการขายทรัพย์สินของจำเลยในระหว่างนี้ จะเป็นหน้าที่ของทางจำเลยที่จะนำทรัพย์สินไปขายก่อน ซึ่งหากขายได้ราคาดีก็เป็นผลดีกับทางผู้เสียหาย แต่หากครบกำหนดแล้ว ทางจำเลยยังไม่สามารถขายทรัพย์สินได้ ถึงจะเข้าสู่ขั้นตอนที่กรมบังคับคดีจะไปขอหมายบังคับคดีจากศาล เพื่อยึดทรัพย์ขายทอดตลาด 

logoline