กลายเป็นข้อกังขาว่า “ปฏิบัติการสลายการชุมนุมเกินกว่าเหตุ” ปราศจากการใช้มาตรการตามหลักสากล และหลักมนุษยธรรม ในการควบคุมฝูงชน และการปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน
ตามหลัก...“แนวทางการตัดสินใจเลือกใช้ยุทธวิธีในการควบคุมฝูงชน” ใช้การวิเคราะห์เป็นแนวทางยุทธวิธี มีจุดมุ่งหมายหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เน้นเชิงป้องกันมิให้เกิดความรุนแรง ทำให้ต้องมี “การสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการชุมนุม” ในการประเมินความสำเร็จการควบคุมฝูงชนนี้ สังเกตจากทุกครั้ง “คณะราษฎร 63” นัดชุมนุมใหญ่ ก็มักมี “ผู้บังคับการหน่วย” พยายามจะเจรจากับ “แกนนำ” แม้จะถูกปฏิเสธการเจรจา หรือ ถูกมวลชนตะโกนด่า ก็มีความจำเป็นต้องพูดคุยเจรจา
เรื่องการใช้กำลังทุกระดับต้องมีการเจรจา หรือแจ้งเตือนกับแกนนำ หรือฝูงชนตลอดเวลาของการควบคุมฝูงชนเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างการใช้กำลังระดับใดก็ตาม เพื่อให้เกิดผลทางด้านจิตวิทยาการลดความตึงเครียดของสถานการณ์ หรือการจัดระเบียบให้ฝูงชน และมีประกาศให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุม และอ่านข้อกำหนด 3 ข้อ ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน และตำรวจควบคุมฝูงชนก็เคลื่อนขบวนมาแยกปทุมวัน แต่ผู้ชุมนุมตะโกนว่า “ขี้ข้าเผด็จการ”
เผด็จการปกครอง ! ถนัดกับการใช้อำนาจนิยมอ้างกฎหมายที่เขียนเองเล่นงานฝ่ายเห็นต่าง เคยชินกับการใช้ความรุนแรงกับประชาชนมือเปล่า เหมือนผักเหมือนปลาจะเข่นฆ่าเมื่อไหร่ก็ได้ !!
ถ้าหมามาขี้หน้าบ้านเราแล้วเราไล่มัน'ชิ่วๆ' มันกลับมาเห่าเรา ขั้นต่อไปเราก็เอาน้ำสาดมัน มันกลับมาเห่าเราอีก ขั้นต่อไปเราก็เอาไม้ไล่มัน มันกลับมาเห่าเราอีก และตามพวกมารุมเห่า ให้ถอดเสื้อผ้าที่เราใส่ มั้ยงั้นจะไม่เป็นเพื่อนเรา แล้วจะทำอย่างไรดี...
👍👏✌💯❤🇹🇭
เป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม เพราะ ทุกครั้งเขาประกาศเวลา ยุติการชุมนุม หน้าที่ที่สมควรกระทำคือ ดูแลรักษา ความปลอดภัย อำนวยความสะดวก และเข้าพูดคุยเจรจา แต่รัฐ ใช้กำลังกับเด็กและเยาวชน
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้