กองปราบรวบทอมแสบ หลอกจำนำรถแล้ว แอบส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน

  • 📰 Thairath_News
  • ⏱ Reading Time:
  • 49 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 23%
  • Publisher: 63%

ประเทศไทย หัวข้อข่าว ข่าว

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว

กองปราบรวบตัวทอมแสบ ตามหมายจับคดีฉ้อโกง หลังก่อเหตุรับจำนำรถผู้เสียหายแล้วนำไปขายต่อที่ประเทศเพื่อนบ้าน ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง แต่ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ อ้างเจ๊มินจ่ายเงินให้เจ้าของรถแล้ว

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นายายอาม และ สน.สายไหม นำกำลังจับกุม น.ส.กัญฐิชากา นวลแป้น หรือเบียร์ อายุ 49 ปี ชาวบ้าน ซ.รังสิต-ปทุมธานี 12 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 210/2562 ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2562 ในข้อหาฉ้อโกง จับได้บริเวณหน้าตลาดเทพทิพย์ ซอยสายไหม 6 แขวงและเขตสายไหม กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเห็นใบปลิวรับจำนำรถติดอยู่หน้าห้องน้ำปั๊มน้ำมัน ใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จึงโทรศัพท์และใช้แอปพลิเคชันไลน์ ติดต่อจำนำรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน กฉ 3385 จันทบุรี ตกลงกันในราคา 80,000 บาท จากนั้นได้นัดรับรถที่สี่แยกไฟแดง หมู่ 1 ต.นายายอาม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ต่อมาได้มี น.ส.

จากการตรวจสอบพบว่าแก๊งดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกจำนำรถยนต์ โดยจะติดใบปลิวไว้ว่า รับซื้อ จำนำ ซื้อดาวน์รถตามห้องน้ำปั๊มต่างๆ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อนำรถมาจำนำ จะเชิดรถไปขายต่อที่ประเทศเพื่อนบ้านทันที โดยก่อเหตุมาแล้วหลายจังหวัด มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า น.ส.กัญฐิชากา หลบหนีมาขับแท็กซี่ย่านสายไหม จึงนำกำลังจับกุมดังกล่าว

จากการสอบสวน น.ส.กัญฐิชากา ให้การภาคเสธ อ้างว่า ก่อนหน้านี้มี"เจ๊มิน" ได้ว่าจ้างให้ไปขับรถยนต์ตามที่ต่างๆ ได้ค่าจ้างครั้งละ 3,000 บาท โดยคิดว่าเจ๊มินจ่ายเงินให้เจ้าของรถเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่ง สภ.นายายอาม ดำเนินคดีต่อไป.

 

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ ความคิดเห็นของคุณจะถูกเผยแพร่หลังจากได้รับการตรวจสอบแล้ว

แล้วจะเบลอหน้าเพื่อ!!

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

 /  🏆 8. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้