ร้องสตง.สอบ"เสี่ย ก."อ้างชื่อบิ๊กป้อมล็อกสเปคกล้องCCTV
กลุ่มธรรมาภิบาลร้อง "สตง." ตรวจสอบกลุ่ม "เสี่ย ก." แอบอ้างชื่อบิ๊กป้อมล็อกสเปคงานติดตั้งกล้อง CCTV ในหน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เเฉ 11 โครงการส่งมอบงานและเบิกจ่ายเงินไปแล้ว รวมราคาจัดซื้อจัดจ้างกว่า 700 ล้านบาท
วันที่ 4 ส.ค.2563 ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น เข้ายื่นหนังสือให้นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่มีขบวนการ "เสี่ย ก." แอบอ้างชื่อ "บิ๊กป้อม" พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไปหาประโยชน์ในงานติดตั้ง CCTV ซึ่งมีหลายโครงการที่ส่งมอบงานและเบิกจ่ายเงินไปแล้วจำนวน 11 โครงการ รวมราคาจัดซื้อจัดจ้างกว่า 700 ล้านบาท โดยทางกลุ่มธรรมาภิบาลต้องการให้ สตง. เข้าไปตรวจสอบงานทั้งหมดว่าได้คุณภาพตามสัญญา และเป็นไปตามทีโออาร์หรือไม่ ดังนี้
1.ขอให้ตรวจสอบโครงการทั้งหมดว่าได้ดำเนินการเป็นไปตามแบบแผนปฎิบัติตามสัญญาและคุ้มค่าต่อเงินแผ่นดินหรือไม่ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561 2.ขอให้ตรวจสอบโครงการทั้งหมดว่าเป็นการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่เข้าข่ายผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4, มาตรา 7, มาตรา 9, มาตรา 10, มาตรา 11, มาตรา 12 และ มาตรา 13 โดยเป็นการกระทำความผิดร่วมกันระหว่างเอกชนกับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือกรรมการหรืออนุกรรมการในหน่วยงานของรัฐซึ่งมิใช่เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐหรือไม่
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางกลุ่มธรรมาภิบาลฯ ได้ยื่นหนังสือถึงสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ตรวจสอบ "กลุ่มเสี่ย ก." ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการจัดหาและติดตั้งกล้อง CCTV ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง โดย "เสี่ย ก." อ้างตนว่าเป็นผู้ประสานงานของผู้ใหญ่ในรัฐบาล เพื่อให้ดำเนินการโครงการ Smart City ต่อหน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีแผนและงบประมาณที่จะติดตั้งกล้อง CCTV โดยได้เข้าไปวางสเปคล่วงหน้าให้กับหน่วยงานที่จะจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้รับสเปค CCTV ของกลุ่มตนเอง และทำให้บริษัทในกลุ่มของตนเองได้งานหลายโครงการแล้วดังนี้1.โครงการติดตั้งกล้องและวางระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในเขตพื้นที่ อบจ.สมุทรปราการ ราคา 98.9 ล้านบาท
2.โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยและป้องกันอุบัติภัยทางถนนและการอนุรักษ์เพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ราคา 263.6 ล้านบาท
3.โครงการปฏิรูประบบกองงานกองบัญชาการตำรวจนครบาล ราคา 59.4 ล้านบาท
4.โครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ราคา 31.2 ล้านบาท
5.โครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ระยะที่ 2 ในเขตเทศบาลเมืองชุมพร ราคา 31.2ล้านบาท
6.โครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ราคา 29.9 ล้านบาท
7.โครงการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมศูนย์ควบคุม ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ราคา 20.4 ล้านบาท
8.โครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในเทศบาลตำบลบางพลีใหม่ ราคา 59.6 ล้านบาท
9.โครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานี ราคา 48.9 ล้านบาท
10.โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มกล้อง CCTV สำหรับการจราจรและความปลอดภัยในจังหวัดเชียงใหม่ ราคา 39.3 ล้านบาท
11.โครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย ราคา 17.2 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางกลุ่มธรรมาภิบาลต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ต่อไป