โครงการคลองส่งน้ำตรัง 600 ล้าน สร้างไม่เสร็จ เร่งหางบเพิ่ม

 

 

                           เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 มกราคม 2563 นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรังเขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมาธิการ การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด ติตามความคืบหน้าโครงการขุดคลองระบายน้ำแม่น้ำตรังอยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลหนองตรุด ตำบลนาโต๊ะหมิง และ ตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายชลัต สุรินทร์รัตน์ นายก อบต.บางรัก นายอนัฎ สุขสังการ นายช่างโยธาอาวุโส กรมชลประทาน

ลักษณะโครงการ เป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง ขุดคลองผันน้ำ ความยาวคลอง 7.55  กิโลเมตร ความกว้างท้องคลอง 102.00 เมตร ความลึกคลอง 4.50 เมตร สามารถระบายน้ำได้ 750.00 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถนนบนคันคลองกว้าง 9.00 เมตร อาคารประกอบ ประตูระบายน้ำ 2 แห่ง คือ ประตูระบายน้ำหนองตรุด ขนาด 8.00x6.50 เมตร 10 ช่อง และประตูระบายน้ำคลองช้าง ขนาด 8.00x7.00 เมตร 10 ช่อง ก่อสร้าง/ปรับปรุงสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ข้ามคลองผันน้ำ จำนวน 6 แห่ง  แผนงานโครงการ จำนวน 4 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2562) วงเงินลงทุนโครงการทั้งสิ้น 1,482.50 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน) เพื่อบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ของ ตำบลหนองตรุด,ตำบลนาโต๊ะหมิงและตำบลบางรักในเขตอำเภอเมือง จังหวัดตรัง คิดเป็นพื้นที่ 10,525 ไร่ เก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรและการอุปโภค-บริโภค ในฤดูแล้งได้ประมาณ 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์จากโครงการฤดูฝนประมาณ 10,000 ไร่ และฤดูแล้งประมาณ 3,000 ไร่ ในช่วงฤดูแล้งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการผลักดันการรุกตัวของน้ำเค็ม เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ ช่วยผลิตน้ำประปาปีละ 1.74 ล้านลูกบาศก์เมตร   

ซึ่งตั้งแต่ดำเนินการก่อสร้างปรากฏว่าทางผู้รับเหมาทำงานเพียง 25 % เท่านั้น โดยอ้างว่าผู้รับจ้างยังมีเครื่องจักร-เครื่องมือไม่เพียงพอที่จะเร่งรัดงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผน และมีฝนตกในพื้นที่บ่อยครั้ง จนมองว่าไม่สามารถทำงานต่อไปได้เพราะงานไม่คืบจึงได้บอกเลิกสัญญาจ้างผู้รับเหมารายเดิมไปในที่สุด หลังจากที่มีการทิ้งงาน ไม่มีความคืบหน้า หลังจากหมดสัญญาก่อสร้าง โดยทางกรมชลประธานเองได้เข้ามาทำเองตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2563 ไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ

 

 

 

 

 

                  นายอนัฎ สุขลังการ นายช่างโยธาอาวุโส กรมชลประทาน กล่าวว่า ตอนนี้ทางชลประทานเองเร่งทำงานให้มีเนื้องานที่สมบูรณ์มากที่สุด โดยนำเครื่องจักรการขุดลอกและบดอัด แบ็คโฮ แทรกเตอร์ รดบดอัก รถกรีด เครื่องสูบน้ำ 10 กว่าเครื่อง ตอนนี้มีการสูบน้ำให้แห้ง หลังจากนั้นจะสรุปว่านำเครื่องจักรเท่าไหร่เพื่อดำเนินการให้เสร็จตามแผนงาน โครงการนี้เริ่มตั้งปี 59  สิ้นสุดสัญญา กันยายน ปี 62  ที่ผ่านมาผู้รับจ้างทำงานได้ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทางผู้บริหารเห็นแล้วว่าไปไม่ไหวจึงยกเลิกสัญญา ซึ้งตอนนี้ชลประทานเข้ามาดำเนินการเองทั้งหมด งานขุดลอกอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์เครื่องจักรกลที่ 7  ส่วนงานโครงสร้างทั้งหมดทางชลประทานยังดูแลทั้งหมด  คาดว่าอีก 5 เดือนจะเห็นสภาพเนื้องานที่เปลี่ยนไป งานคลองสามรถระบายน้ำได้ทั้งหมด ระบายน้ำได้เร็วกว่าแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ถึง 100% จากงบประมาณ 600 ล้านบาท ขณะนี้มีเงินเหลือ 400 ล้านกว่าบาท สายคลอง 5 เดือนจะเร่งเนื้องานให้ไม่ต่ำกว่า 90% ซึ่งจะมีการเบิกจ่ายตามเนื้องานที่ทำเสร็จไปในแต่ละเดือน ซึ่งจุด กม. 7 ประตูระบายน้ำ ขุดคลองผันน้ำต้องเร่งให้แล้วเสร็จ ซึ่งจำนวนเงินก็ไม่เพียงพอที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จ การสร้างสะพาน กม.6 ต.หนองตรุด หากไม่ทำให้แล้วเสร็จน้ำก็ระบายไม่ได้ ทางกรมชลประทานได้ตัดงบงานไฟออกเพื่อนำมาสร้างสะพานเสร็จ 95% -98% ซึ่งต้องทำเรื่องของบประมาณเพิ่มอีก 200 ล้านบาท  ปัญหาการเวียนคืนที่ดินจบเรียบร้อยแล้ว แต่จะมีตกค้างงบประมาณปี 63 คาดว่าไม่กี่รายซึ่งขอเช็ครายละเอียดอีกครั้ง  สำหรับผู้รับผิดชอบเป็นโครงการก่อสร้างที่ 11 นั้นสำนักงานพัฒนาแหล่งน้ำกรมชลประทาน ตอนนี้เป็นเครื่องจักรของศูนย์เครื่องจักรทั้งหมด แต่ทั้งนี้เนื่องจากงานของศูนย์เครื่องจักรมีจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะเช่าเครื่องจักรจากในพื้นที่มาทำงานไม่มีการจ้างผู้รับเหมา

 

 

 

 

                          ทางด้านนายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรังเขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ลงพื้นที่ครั้งนี้มาติดตามเพราะความเป็นห่วงว่าจะเสร็จใช้งานไม่ทันช่วงหน้าฝนที่จะมาถึงนี้ แต่ได้รับรายว่าทางชลประทานเข้ามาดำเนินการเองตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2563 งานหลักคือการขุดคลองระบายน้ำให้เสร็จให้ทันภายใน 5 เดือนนี้ ก็จะระบายน้ำได้หมดในช่วงหน้าฝน อาคารสำคัญต่าง ๆ ให้เสร็จภายใน 5 เดือนนี้ อย่างเช่น ปตร.ประตูระบายในตำบลหนองตรุด สะพานข้ามถนนต่าง ๆ ที่จะระบายน้ำ ส่วนอื่น ๆ คงจะเป็นปีต่อๆ ไป ทั้งนี้จะเร่งรัดให้เสร็จก่อนช่วงฤดูฝน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 90% ตนเชื่อว่าเป็นไปได้เพราะเป็นช่วงหน้าแล้ง การทำงานทำได้รวดเร็ว น่าจะระบายน้ำได้ทัน ที่ผ่านมาปัญหาส่วนหนึ่งมาจากธรรมชาติ ปี 59-60 น้ำท่วมใหญ่ และการทำงานล้าช้าของผู้รับเหมาเอง ซึ่งทางชลประทานได้ลงมาแก้ไขดำเนินการในงบประมาณที่เหลือ ส่วนงบประมาก็คงไม่พอต้องของบประมาณเพิ่มจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้จากการวิเคราะห์พบว่า เมื่อมาเปรียบเทียบแล้ว จากงบประมาณเก่า 600 ล้าน บวกเพิ่มอีก 200 ล้าน ก็เท่ากับ 800 ล้าน ก็เกือบเท่ากับราคากลาง 900 ล้านบาท  ซึ่งเป็นการสูญเสียเงินของรัฐโดยใช่เหตุ

                อย่างไรก็ตามกำหนดการจะต้องเสร็จ ก่อนเดือนกันยายน 2562 ผู้รับเหมารายเดิม ได้เคยรับปาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าโครงนี้จะต้องเสร็จตามกำหนดการแน่นอน ในขณะที่นายกรัฐมนตรีตรวจสภาวะน้ำท่วมจังหวัดตรัง และยังเป็นโครงการตามความเห็นชอบของนายชวน หลีกภัย สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี โดยครั้งแรกวงเงินประมูล 1,400 กว่าล้าน แต่เมื่อสมัย คสช. ถูกตัดราคากลางที่ 900 ล้าน แต่ผู้ประมูลหั่นราคาในการประมูล 600 กว่าล้าน และที่สุดถูกสภาพขาดทุนเลยตัดสินทิ้งงานไปในที่สุด ถึงวันนี้ความคืบหน้าโครงการแค่ร้อยละ 25 เท่านั้น

 

 

 

ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดตรัง